คาเคาบริสุทธิ์เหมาะกับโรคอะไร และโรคไหนบ้างที่ไม่แนะนำให้ดื่ม!
คาเคาบริสุทธิ์เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก และมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ในบทความนี้ เราจะสำรวจว่า คาเคาบริสุทธิ์เหมาะสำหรับโรคประจำตัวชนิดไหนบ้าง ส่งผลดีอย่างไร ปริมาณการดื่มที่แนะนำ พร้อมทั้งระบุโรคประจำตัวที่ไม่ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์
☘️ เคาเคาบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับโรคประจำตัวชนิดไหนบ้าง?
1. โรคหัวใจและหลอดเลือด
คาเคาบริสุทธิ์มีฟลาโวนอยด์ที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและหลอดเลือด ฟลาโวนอยด์ช่วยลดความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้คาเคาบริสุทธิ์ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
แนะนำ: ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์ประมาณ 20-30 กรัมต่อวัน
2. โรคเบาหวาน
คาเคาบริสุทธิ์มีคุณสมบัติช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สารฟลาโวนอยด์ในคาเคาบริสุทธิ์สามารถเพิ่มความไวของอินซูลิน ช่วยในการจัดการระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ดังนั้น การดื่มคาเคาบริสุทธิ์ในปริมาณที่เหมาะสมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีภาวะเบาหวาน
แนะนำ: ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์ประมาณ 10-20 กรัมต่อวัน
3. โรคซึมเศร้าและความเครียด
คาเคาบริสุทธิ์มีสารทริปโตเฟน (tryptophan) และโดพามีน (dopamine) ที่ช่วยในการปรับปรุงอารมณ์และลดความเครียด การดื่มคาเคาบริสุทธิ์สามารถช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและสร้างความรู้สึกดี การดื่มคาเคาบริสุทธิ์เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยในการจัดการกับอารมณ์และความเครียดในชีวิตประจำวัน
แนะนำ: ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์ประมาณ 15-25 กรัมต่อวัน
4. โรคความดันโลหิตสูง
คาเคาบริสุทธิ์มีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิต โดยสารฟลาโวนอยด์ในคาเคาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น แข็งแรงของหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และลดความดันโลหิต การดื่มคาเคาบริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยในการควบคุมความดันโลหิตในระดับที่เหมาะสม
แนะนำ: ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์ประมาณ 20-30 กรัมต่อวัน
5. โรคมะเร็ง
คาเคาบริสุทธิ์มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่ช่วยป้องกันการเกิดและการเติบโตของเซลล์มะเร็ง (impede carcinogenesis) สารฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอลในคาเคาบริสุทธิ์ช่วยลดการอักเสบและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง การดื่มคาเคาบริสุทธิ์จึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
แนะนำ: ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์ประมาณ 20-30 กรัมต่อวัน
6. การควบคุมน้ำหนัก
คาเคาบริสุทธิ์มีสารฟลาโวนอยด์และสารอาหารที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานและลดความอยากอาหาร คาเคาบริสุทธิ์ยังมีแมกนีเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระตุ้นระบบเผาผลาญ การดื่มคาเคาบริสุทธิ์ช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหาร ซึ่งสามารถช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้
แนะนำ: ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์ประมาณ 10-20 กรัมต่อวัน
7. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
คาเคาบริสุทธิ์มีสารฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอลที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ประสาทในสมอง สารต้านอนุมูลอิสระในคาเคาบริสุทธิ์ช่วยลดการอักเสบและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัลไซเมอร์ การดื่มคาเคาบริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอจึงช่วยเสริมสร้างความจำและการทำงานของสมอง
แนะนำ: ควรดื่มคาเคาบริสุทธิ์ประมาณ 20-30 กรัมต่อวัน
⛔️ โรคประจำตัวชนิดไหนที่ไม่ควรดื่มคาเคา
1. โรคไต
คาเคาบริสุทธิ์มีโพแทสเซียม ผู้ที่มีภาวะโรคไตจำเป็นต้องลดการทานโพแทสเซียมให้ได้มากที่สุด เนื่องจากไตไม่สามารถกรองโพแทสเซียมได้ดี จึงอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงขึ้น
(อาหารอื่นๆที่มีโพแทสเซียมสูงคือผักที่มีสีเข้ม เช่น แครอท มะเขือเทศ คะน้า ผักชี มันผรั่ง กล้วย ทุเรียน แอปเปิ้ล เงาะ ส้ม องุ่น ลิ้นจี่ แคนตาลูป ส้มโอ มะม่วงดิบ มะเขือยาว)
2. ผู้ที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
สำหรับผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะและต้องทาน ‘ยากดภูมิคุ้มกัน’ อยู่ ยังไม่แนะนำให้ดื่มคาเคาบริสุทธิ์ในช่วงนี้ค่ะ เนื่องจากคาเคามีสารฟลาโวนอล (Flavonol) ซึ่งอาจกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบางส่วนได้เล็กน้อย และอาจมีปฏิกิริยากับยากดภูมิได้ในบางกรณี ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเริ่มดื่มค่ะ
Flavonol มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและลดอักเสบ
ปกติเป็นผลดีต่อหัวใจ หลอดเลือด และสมอง แต่ในผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ ร่างกายถูกกดภูมิคุ้มกันไว้เพื่อป้องกันการปฏิเสธอวัยวะใหม่ การได้รับสารที่กระตุ้นภูมิบางชนิด (เช่น ฟลาโวนอลหรือโพลีฟีนอลในปริมาณสูง) อาจไป “กระตุ้นระบบภูมิ” ได้เล็กน้อย
ผลต่อการเผาผลาญยาในตับ
คาเคามีสารโพลีฟีนอลที่อาจมีผลต่อเอนไซม์ในตับ (CYP450 enzyme system) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ยากดภูมิหลายชนิด เช่น Tacrolimus, Cyclosporine, Mycophenolate หากร่างกายเผาผลาญยาได้ช้าลงหรือเร็วเกินไป อาจทำให้ระดับยากดภูมิคุ้มกันในเลือดผิดปกติ
โพแทสเซียมในคาเคา
แม้จะไม่สูงมาก แต่ในผู้ป่วยปลูกถ่ายไตหรืออวัยวะอื่น ๆ ร่างกายมักยังไม่สามารถขับโพแทสเซียมได้เต็มที่ ต้องได้รับการควบคุมอย่างระมัดระวัง
ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการดื่มคาเคาเมื่อแพทย์ได้ทำการแจ่งแล้วว่าให้ทานได้
หากแพทย์ยืนยันว่าอวัยวะใหม่ทำงานคงที่แล้ว (โดยมากหลังผ่าตัดประมาณ 1 ปีขึ้นไป)
ค่าไตและตับอยู่ในเกณฑ์ปกติ
และไม่มีการทานยากดภูมิที่มีปฏิกิริยากับอาหารบางชนิด อาจเริ่มลองดื่มในปริมาณน้อยภายใต้คำแนะนำของแพทย์
สรุป
คาเคาบริสุทธิ์มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ที่สามารถทานร่วมกันได้ทั้งครอบครัว และส่งผลดีโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง การควบคุมน้ำหนัก และโรคอัลไซเมอร์
การดื่มคาเคาบริสุทธิ์อย่างเหมาะสมกับร่างกายและในปริมาณที่เหมาะสมสามารถช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระในคาเคา ร่วมกันรักษาสุขภาพให้ดีและแข็งแรงด้วยการเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของเรากันนะคะ